Search

MASK ปิดหน้าตลาดบิวตี้จึงตก “คิสออฟบิวตี้”ปรับตัวสู้โควิด หั่นเป้าโต-ลุยกลุ่มสุขอนามัย - ผู้จัดการออนไลน์

marketsmd.blogspot.com


ผู้จัดการรายวัน360 – “คิสออฟบิวตี้” ชี้ปีนี้ตลาดเมคอัพหรือตลาดบิวตี้ท้าทายมาก จากโควิด-19 กระทบหนัก เร่งปรับตัวเจาะสินค้ากลุ่มอนามัย และราคาไม่แพง พร้อมปรัลดเป้าเติบโตเหลือ 14% 

นายกิตติพนธ์ นามพิชญ์ธนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิสออฟบิวตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเมคอัพหรือเครื่องสำอางค์โดยรวมในปี2563นี้ถือเป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19ที่ระบาดอย่างหนักและ ส่งผลกระทบไปทั่ว ทำให้เกิดพฤติกรรมหรือการใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มัล (New Normal) ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องสำอางค์และความงามเช่นกัน จากปรกติตลาดรวมจะเติบโตเฉลี่ย 6-8% ทุกปี นอกจากนั้นยังได้รับผลกระทบจากตลาดต่างประเทศด้วยที่มีทำตลาดผ่านดิสทริบิวเตอร์ 4 ประเทศคือ เวียดนาม ไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ 

“เพราะช่องทางหลักอย่างออฟไลน์ถูกปิดบริกรไปนานกว่า 3 เดือน ผู้บริโภคจะใช้จ่ายเฉพาะสินค้าหรือสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากขึ้นในช่วงนี้ เช่นเรื่องสุขอนามัย และตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะเรื่องความงามลงไปมาก และการที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยจึงทำให้ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าให้มากเหมือนเดิม รวมไปถึงการเกิดสงครามราคาจากเพื่อดึงดูดลูกค้าและสร้างยอดขายให้มากที่สุด ตอนนี้เราจะเห็นเรื่องสงครามราคาอย่างชัดเจน จากแบรนด์ตจ่างประเทศและแบรนด์ของไทย จากเมื่อก่อน ลดแค่ 50% แต่ว่าตอนนี้ลดกันมากถึง 70% แล้วแต่กรณี และระยะเวลาโปรโมชั่นก็จะนานกว่าเดิมด้วย”


สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯครึ่งปีหลังนี้ คือ 1. การทำตลาดหน้ากากอนามัยมากขึ้นเพื่อตอบรับสถานการณ์โควิด-19 , 2.การเน้นสินค้าที่เกี่ยวกับสุขอนามัย และการป้องกันเชื่อโรค ด้วย 2 แบรนด์คือ YUMA กับ SKINOXY ที่จะออกสินค้า และล่าสุดเปดตลาดกลุ่มเอฟเอ็มซีจี ด้วยแบรนด์ วิงค์เคิล (Winkel) คือฟองน้ำนาโน 3.การเน้นทั้ง2ช่องทางอย่างไร้รอยต่อทั้งออฟไลน์กับออนไลน์ ซึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยโตเฉลี่ย 20% มาตลอดในภาพรวม เราจะต้องพัฒนาเรื่องบิ๊กดาต้า คลังสินค้า โลจิสติกส์ อย่างต่อเนื่อง และ 4. การเน้นสินค้าที่ราคาไม่แพงแต่มีความคุ้มค่า ตั้งเป้าหมายปีนี้ออกสินค้าใหม่รวมทุกแบรนด์ 20 เอสเคยู วางตลาดแล้ว 8 เอสเคยู 

อย่างไรก็ตาม จะยังไม่เพิ่มแบรนด์ใหม่ จะเน้นไปที่ 9 แบรนด์เดิม ซึ่งที่เป็นของเราเองคือ ประกอบด้วย มาลิสสา คิส โลชั่น้ำหอม สเปรย์น้ำหอม เจลว่านหางจระเข้ เครื่องสำอาง เป็นแบรนด์แรกของบริษัท , มูนอาเฮ้าส์ บำรุงผิว, ทูซัมวัน โลชั่นน้ำหอม, สกินออกซี่ บำรุงผิว, ยูมะ น้ำยาฆ่าเชื้อโรคผสมแอลกอฮอลล์ เจลแอลกอฮอลล์ ทิชชู่เปียก และ หน้ากากอนามัย , จูเลียนโคล น้ำหอม, คลารีน่า เครื่องทำความสอาดผิวหน้า และ วิงค์เคิล ฟองน้ำนาโน มี เพียงแบรนด์เดียวที่นำเข้าคือ แทงกีโมรี บำรุงเส้นผม จากเกาหลี


สินค้าทั้งหมดจับกลุ่มตลาดแมส ราคาตั้งแต่ 19 บาท ถึง 1,290 บาท โดยมีโรงงานผลิตเองทั้งหมด 2 แห่ง มีกำลังผลิตรวม 500 ตันต่อเดือน หรือ 3 ล้านชิ้นต่อเดือน รองรับการผลิตได้อีก 5 ปี ส่วนแผนที่จะเปิดรีเทลสโตร์นั้น คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเพราะสถานการณ์โควิด-19 ส่วนช่องทางการขายออฟไลน์มีหลากหลาย เช่น บิ๊กซี วิลล่ามาร์เก็ต โรบินสัน แม็คโคร เซเว่นอีเลฟเว่น อีฟแอนด์บอย แม็กซ์แวลู วัตสัน เทสโก้โลตัส เป็นต้น

นายกิตติพนธ์ กล่าวต่อว่า ในปีนี้(25633) คาดว่ารายได้รวมจะหายไปถึง 50% หรือมีรายได้รวมปีนี้ 302 ล้านบาท เติบโต 14% ซึ่งปรับลดจากเดิมต้นปีที่ตั้งไว้ที่ 60% โดยสัดส่วนรายได้จากทางออนไลน์ 10% จากต้นปีที่มีสัดส่วนออนไลน์แค่ 1% เท่านั้น ส่วนอีก 90% มาจากออฟไลน์ ที่มีจุดขายรวมมากกว่า 20,000 จุดขาย ซึ่งมีรายได้จากต่างประเทศ 10% ส่วนปีหน้าตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 400 ล้านบาท ตั้งเป้าภายใน 5 ปีจากนี้ จะมียอดขายต่างประเทศ 30% และรายได้จากออนไลน์ 50% จากในอดีตบริษัทตั้งมา 7 ปี ยอดขายจะเติบโตมตลอด แต่ปีนี้คาดวาต่ำที่สุด โดยปี2560มียอดขาย 113 ล้านบาท โต 148%, ปี 2561 มียอดขาย 145 ล้านบาท โต 28%, ปี 2562 ยอดขาย 264 ล้านบาทโต 82%





August 20, 2020 at 11:07PM
https://ift.tt/2YlDBSL

MASK ปิดหน้าตลาดบิวตี้จึงตก “คิสออฟบิวตี้”ปรับตัวสู้โควิด หั่นเป้าโต-ลุยกลุ่มสุขอนามัย - ผู้จัดการออนไลน์

https://ift.tt/3azMLPC


Bagikan Berita Ini

0 Response to "MASK ปิดหน้าตลาดบิวตี้จึงตก “คิสออฟบิวตี้”ปรับตัวสู้โควิด หั่นเป้าโต-ลุยกลุ่มสุขอนามัย - ผู้จัดการออนไลน์"

Post a Comment

Powered by Blogger.