ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
จากการสัมภาษณ์ นายบ็อบบี้ เหอ ชาวจีนจากปักกิ่งที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในไทย เปิดเผยว่า เขามีเพื่อนชาวจีนนับสิบคนที่เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายยูนิต ตามย่านยอดนิยมต่าง ๆ ในไทย เช่น กทม. ภูเก็ต และพัทยา โดยบางคนซื้อคอนโดมิเนียมเก็บไว้ถึง 3 ยูนิตในโครงการเดียวกัน เพราะมีแผนจะใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย
อย่างไรก็ตาม แม้อสังหาริมทรัพย์ในไทยดูเหมือนจะมีราคาน่าดึงดูดใจสำหรับผู้ซื้อชาวจีน เมื่อเทียบกับตลาดในจีน แต่การลงทุนในไทยกลับถดถอยลง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยเม็ดเงินจากจีนเริ่มหายไปจากตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าและสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ-จีน แต่การระบาดของ COVID-19 กลับเข้ามาซ้ำเติม ไม่ต่างจากการโรยเกลือลงบนแผล
นอกจากนี้ สหรัฐฯ สิงคโปร์ ไต้หวัน อังกฤษ และญี่ปุ่น ก็อยู่ในกลุ่มผู้ซื้อที่นำเงินมาลงทุนสูงสุดในอันดับรองลงมาเช่นกัน
ด้าน นายหวง เฉิง ชายจีนจากเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายยูนิต ในย่านวงเวียนใหญ่และอ่อนนุช ซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเช่าห้องพัก Airbnb เผยว่าก่อนหน้าที่จะมีโรคระบาด เขาสามารถปล่อยห้องให้เช่าได้ง่าย ๆ ในราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท แต่ตอนนี้คอนโดมิเนียมของเขาส่วนใหญ่กลับถูกทิ้งว่าง
อนึ่ง ไทยมีคำสั่งห้ามเที่ยวบินพาณิชย์เดินทางเข้าประเทศไทยจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งแม้จะเริ่มมีการหารือเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ผู้สังเกตการณ์ด้านการตลาด มองว่ากิจกรรมด้านการท่องเที่ยวในไทยน่าจะยังไม่ฟื้นกลับมา จนกว่าจะถึงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เผยข้อมูลในเดือนพฤษภาคม คาดว่าในปี 2563 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเกือบ 2 ใน 3 จากปีที่ผ่านมา โดยเหลือเพียงแค่ 14 ล้านคน เมื่อเทียบกับในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยร่วม 39.8 ล้านคน เรียกว่าเป็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 14 ปี
ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมของไทย พบว่าระหว่างปี 2553-2561 ไทยมีคอนโดมิเนียมใหม่ที่เปิดตัวใน กทม. เฉลี่ยปีละ 105,000 ยูนิต แต่ยอดขายในแต่ละปีจะมีเพียง 96,000 ยูนิตเท่านั้น โดยพบว่าในเดือนพฤษภาคม 2563 ยังมีคอนโดมิเนียมใน กทม. อีกราว 100,000 ยูนิต ที่ยังคงเปิดขายอยู่
เมื่อมีสถานการณ์โรคระบาด ก็ยิ่งส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ นักพัฒนาโครงการแต่ละแห่งต่างพยายามงัดกลยุทธ์ต่าง ๆ มาจูงใจผู้ซื้อ บางแห่งเสนอส่วนลดสูงสุดถึง 50% อย่างไรก็ตาม นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด มองว่า ตลาดคอนโดมิเนียมค่อนข้างชะลอตัวลงทั้งในแง่อุปสงค์และอุปทาน โดยคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปี กว่าตลาดคอนโดมิเนียมในไทยจะกลับมาดีขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Nikkei Asian Review
June 10, 2020 at 04:53PM
https://ift.tt/37ihlMN
สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ตลาดคอนโดฯ ไทย ซบเซา หลังการลงทุนจากจีนลดลง ในช่วงโควิด 19 - Kapook.com
https://ift.tt/3azMLPC
Bagikan Berita Ini
0 Response to "สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ตลาดคอนโดฯ ไทย ซบเซา หลังการลงทุนจากจีนลดลง ในช่วงโควิด 19 - Kapook.com"
Post a Comment